นายนิโคไล ไอวาโนวิท และนายเพรสตัน สเปนเซอร์ รามิเรส นักท่องเที่ยงชาวอเมริกันอายุ 25 ปี ถูกตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่จับกุมหลังเมาแล้วทุบกระจกรถชาวบ้านเสียหายที่หน้าคลินิกทำฟัน ถ.ช้างคลาน ช่วงประมาณเที่ยงคืนวันนี้ทั้งสองถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่สถานีตำรวจแต่กลับถุยน้ำลายใส่เจ้าหน้าที่ซ้ำอีกด้วย
ผู้เสียหายที่ถูกทุบกระจกรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว คือ นางณภาพร เกษประสิทธิ์ อายุ 41 ปี โดยรถอยู่ในสภาพที่กระจกมองข้างด้านซ้ายหายไป
ชายทั้งสองถูกพบในร้านสะดวกซื้อห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร โดยขณะถูกควบคุมตัว ทั้งสองมีอาการมึนเมาและพูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่พบกระจกมองข้างที่ทั้งสองทำเสียหายติดตัวอยู่ด้วย ทั้งนี้ นางณภาพร ผู้เสียหายเผยว่าตนและแฟนออกมาจากร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถและเห็นเหตุการณ์ที่ชายทั้งสองทุบกระจกรถจนหลุดและนำติดตัวไป หลังจากเห็นว่าทั้งสองมีอาการมึนเมาจึงเกรงจะเกิดอันตรายและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ ชายอเมริกันทั้งสองถูกแจ้งข้อกล่าวหา เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย และทำลายทรัพย์สินผู้อื่น โดยเจ้าหน้าที่จะสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เพจเฟสบุ๊ค เหยี่ยวข่าว ภูเก็ต รายงาน ว่ารับแจ้งอุบัติเหตุรถทัวร์สาย กรุงเทพฯ – ภูเก็ต เสียหลักลงข้างทาง ก.ม8 ถนนสาย415 บ้านหลังเขา คลองชะอุ่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 เมษายยน ระหว่างเดินทางมุ่งหน้าจังหวัดภูเก็ต โดยรถทัวร์คันดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารมาทั้งหมด 46 คน คนขับ 2 คน เด็กประจำรถ 1 คน เบื้องต้นผู้โดยสารและพนักงานทุกคนปลอดภัยดีทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นที่ปรากฏแน่ชัดว่าสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากอะไร
ยิ่งกว่าโคนัน หนุ่มจับพิรุธชายแต่งตัวกางเกงขาสั้นนั่งรถเมล์แต่ใช้ไอโฟน เลยสังเกตจนรู้ว่าสุดท้ายเป็นโจร
วันที่ 30 เม.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก JibJib Pongpakkittikul ได้แชร์เรื่องราวระหว่างนั่งรถเมล์เมื่อสังเกตเหตุชายคนข้าง ๆ สวมเสื้อยืดตัวโคร่งและกางกงขาสั้นเจเจ แต่ถือมือถือยี้ห้อ Iphone8 พร้อมมีสายโทรเข้าไม่หยุดแถมเจ้าตัวก็ตัดสายทิ้งตลอด เมื่ออีกคนสังเกตเห็นเบอร์ที่โทรเข้าและโทรไปจึงทราบว่า มือถือเครื่องนั้นถูกขโมยพร้อมรถ จนนำไปสู่การจับกุมในที่สุด ข้อความต้นทางระบุว่า
“เช้านี้..นั่งรถเมล์ 180 เห็น ผู้ชายคนนึงแต่งตัวกางเกงเจเจเก่าๆ แค่คิดในใจว่า เฮ้ย .. ใช้ IPhone 8 plus เลยเหรอวะ ไม่น่าใช่ มีสายเข้า เกือบ 10 รอบ นางกดทิ้ง .. มองดูเรื่อยๆ นางไม่มีพาสเวิร์ดเข้าเครื่อง คิดแล้วว่า ขโมยชัวร์ ก้อเลยถ่ายรูปไว้จะบอก กระเป๋ารถ แต่พี่ผู้ชายนั่งเบาะหลัง นางก้อคงสงสัย นางแอบดูเบอร์โทรเข้าแล้วโทรไป ปรากฏว่าเป็นเจ้าของเครื่องตัวจริง แจ้งว่า โทรศัพท์หายพร้อมมอไซด์ เลยบอกกระเป๋า คนขับพร้อมใจจอดและเรียกตำรวจที่ริมถนน #จับเรียบร้อย เหตุการ์ณเกิดขึ้นไวมาก และจบลงด้วยดี #เพิ่งขโมยเช้ามืด 8.00 ถูกจับ #คือดีงาม #กรรมไวมาก #ทำดีได้ดีก้อมีนะ #เป็นเรื่องที่ดี #เรื่องเล่าเช้าวันอังคาร ปล. กุญแจรถมอไซด์ที่เอวคือ ขโมยมา #โลกนี้โหดร้ายจัง ???”
ต้องเฝ้าระวังต่อ ภูเก็ตฝนตกแล้ว แต่ยังไม่พ้นวิกฤติภัยแล้ง
ภูเก็ตฝนตกในพื้นที่แล้ว แม้ไม่ช่วยให้พ้นวิกฤติภัยแล้ง แต่เพิ่มปริมาณน้ำในอ่างได้บ้าง ร่นระยะเวลาการใช้น้ำไปได้อีกเล็กน้อย แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อ นายสมสวัสดิ์ ฉายสินสอน ผู้อำนวยการโครงการชลประทานภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การใช้น้ำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า จากกรณีมีฝนตกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตบ้างแล้ง หลังจากก่อนหน้านี้ฝนทิ้งช่วงมานานจนทำให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่ในอ่างเก็บน้ำต่างๆลดลงเกือบหมดอ่าง โดยปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำบางวาด มีปริมาณ 1.05 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 10.3% ของความจุ, อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ มีปริมาณน้ำ 0.9 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 12.5% ของความจุ และ อ่างเก็บน้ำคลองกระทะ มีปริมาณน้ำ 1.1 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 25% ของความจุ
และจากปริมาณฝนที่ตกลงมาวันแรกคือวันที่ 27 เเมษายน พบว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยสถานีวัดน้ำฝนบริเวณอ่างเก็บน้ำบางวาด วัดปริมาณน้ำฝนสูงสุด 137.5 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้ำคลองกระทะ ประมาณ 103 มิลลิเมตร และ อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ประมาณ 50 มิลลิเมตร ทำให้ปริมาณน้ำในส่วนของอ่างเก็บน้ำบางวาด มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากน้ำที่ไหลลงอ่างประมาณ 40,000 ลูกบาศก์เมตร และ มีการสูบเติมได้อีกประมาณ 60,000 ลูกบาศก์ เมตร ส่วนอ่างอื่นๆก็มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าในพื้นที่จะมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ก็ยังไม่พ้นวิกฤติภัยแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้น้ำในอ่างไปแล้วจำนวนมากต้นทุนน้ำมีเหลือกน้อย จึงต้องมีการวางแผนในการบริหารจัดการการใช้น้ำกันต่อไป เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาไปมากกว่านี้ เพราะขณะนี้สถานการณ์ขาดแคลนน้ำยังน่าเป็นห่วง
นายสมสวัสดิ์ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมการใช้น้ำของภูเก็ต จากข้อมูลย้อนหลัง 2 ปี ที่ผ่านมา พบว่ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้น พิจารณาเฉพาะการให้บริการของกรมชลประทาน ในอ่างเก็บน้ำบางวาดในปี ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นประมาณ 40% โดยใช้น้ำประมาณ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบกับปี 2559 และ 2560 ซึ่งใช้น้ำไปประมาณ 13 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% จากประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นประมาณ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนการนำน้ำจากขุมน้ำเอกชนมาใช้นั้น นายสมสวัสดิ์ กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้นายอำเภอและผู้นำท้องถิ่นแต่ละแห่งไปประสานกับทางเจ้าของขุมน้ำ เพื่อทำข้อตกลงและนำน้ำมาใช้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วนกรณีน้ำในอ่างเก็บน้ำไม่เพียงพอ